OpenAI ได้สัญญา 200 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
OpenAI บริษัทเจ้าของ ChatGPT ได้รับสัญญาว่าจ้างจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,500 ล้านบาท) เพื่อพัฒนา AI สำหรับช่วยในภารกิจสำคัญของรัฐบาล เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ และการจัดการงานภายในองค์กรรัฐ
โปรเจกต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหม่ชื่อว่า OpenAI for Government ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ AI เข้าช่วยงานของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงและการทหาร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ OpenAI ได้ร่วมงานโดยตรงกับกระทรวงกลาโหมในระดับนี้
แม้รายละเอียดเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ภายใต้ความลับ แต่รายงานระบุว่า OpenAI จะพัฒนาระบบที่สามารถประมวลผลข้อมูลยุทธศาสตร์ วิเคราะห์สถานการณ์ฉุกเฉิน และแม้แต่ช่วยในการตัดสินใจสำหรับผู้บริหารระดับสูงในกองทัพ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและการทำงานขององค์กรรัฐในอนาคต
โครงการนี้ยังมุ่งพัฒนา "Frontier AI" หรือ AI ขั้นสูงที่มีศักยภาพระดับใกล้เคียงมนุษย์ (AGI) ซึ่งกำลังถูกจับตาอย่างมากว่าอาจเปลี่ยนแปลงความมั่นคงโลก และกฎเกณฑ์ด้านจริยธรรมและกฎหมายในอนาคต
นี่ถือเป็นก้าวใหญ่ของ OpenAI จากบริษัทวิจัยเทคโนโลยี มาสู่เวทีภาครัฐและความมั่นคงอย่างเต็มตัว และสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีระดับยุทธศาสตร์ของประเทศ ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางธุรกิจอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายมองว่าสัญญาครั้งนี้อาจทำให้ OpenAI กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของบริษัทสายกลาโหม-เทคโนโลยีเจ้าเก่าอย่าง Palantir, Anthropic, และ Google ที่ต่างก็มีโปรเจกต์กับรัฐบาลเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ OpenAI เคยถูกวิจารณ์ว่ามีจุดยืนคือ พัฒนาเพื่อมนุษยชาติ แต่การเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมอาจทำให้เกิดคำถามใหม่ว่า AI จะถูกใช้เพื่อประโยชน์ของคนที่จ่ายเงินมากกว่าหรือไม่
ที่มา: https://www.cnbc.com/2025/06/16/openai-wins-200-million-us-defense-contract.html